ผมมีประสบการณ์ส่วนตัวที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับประกันแบบนี้ เพราะชอบโดนชวนให้ซื้อ โดยบอกว่าเป็นการฝากเงินที่คุ้มกว่าฝากธนาคาร (เพราะลดหย่อนภาษีได้)
ภรรยาผมเคยถึงขั้นเจอตัวแทนทำตัวมาเป็นคนไข้อยากตรวจ แต่จริง ๆ แล้วต้องการเสนอขายประกันออมทรัพย์เพื่อลดหย่อนภาษี พอปฏิเสธไปแล้วไม่กลับมารักษาต่อกันเลย
ทำให้โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบประกันรูปแบบนี้สักเท่าไหร่เป็นทุนเดิม
และยิ่งพอได้มาวางแผนการเงินให้ลูกค้าหลาย ๆ คน ผมกลับยิ่งเจอคนที่มีปัญหาจากประกันแบบนี้ มากกว่าประโยชน์ แทบจะร้อยทั้งร้อย
เพราะตัวแทนไปขายลูกค้าเรื่อง ลดหย่อนภาษี และขายเรื่องผลตอบแทน 300-500% ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่
บางคนไปบอกว่าเป็นการฝากเงินอีก ทั้งที่ตอนสอบตัวแทนประกัน คปภ.เขาก็สอนเรื่องพวกนี้หมด
นอกจากนี้หมอหลายคนฐานภาษีสูง ตัวแทนก็ขายอัดเต็ม Max 100k บาท โดยที่ไม่ถามเลยว่า สภาพคล่อง เป็นยังไง มีแผนอื่น ๆ ในชีวิตในอนาคตไหม เน้นลดหย่อนภาษี
ปัญหาที่ตามมาคือ ทำงานไปสักพัก ลูกค้าต้องไปเรียนต่อ รายได้น้อยลงช่วงนั้น ทำให้ขาดสภาพคล่อง
หรือ พอลูกค้าเริ่มเห็นความสำคัญของประกันสุขภาพ อยากได้ประกันสุขภาพให้ตนเอง
แต่สภาพคล่องไม่ไหว จะเอาเล่มเดิมเวนคืนก็เสียดายเงินที่จ่ายมา แถมโดนเรื่องภาษีอีก จะให้ซื้อเพิ่มไปเลยก็สภาพคล่องยิ่งหนัก
กลายเป็นความคุ้มครองก็ไม่ได้อย่างที่ตนเองต้องการ เงินจมถอนไม่ได้ แถมยังสร้างผลตอบแทนได้น้อยมาก (ไม่เห็นเหมือนตอนที่บอกว่าได้ 300% เลย)
แล้วเลข 300-500% ตัวแทนไปเอามาจากไหน?
ลองมาดูตัวอย่างสมมตินะครับ
แบบประกัน ออมทรัพย์ เบี้ย 100,000 บาทต่อปี จ่าย 5 ปี
คุ้มครองชีวิต 500,000 บาท ตลอดอายุสัญญา 10 ปี
ได้เงินคืนปีละ 5,000 บาท (ปีละ 5% ของเบี้ย)
ครบ 10 ปี ได้เงินคืนอีก 500% (500,000)
ผลตอบแทนเท่าไหร่ครับ?
ส่วนเงินคืนแต่ละปี: 5% * 10 = 50%
เงินคืนปีสุดท้าย 500%
ได้เงินคืนรวม 550%
แปลว่าที่ผ่านมา ผลตอบแทนเท่ากับ 55% ต่อปีเลยไหม?
หรือว่าได้ผลตอบแทนปีละ 5%? (ได้เงินปีละ 5,000 บาท)
หรือผลตอบแทนทั้งหมดเท่ากับ 550% เลยไหม?
คำตอบคือ ผิด ครับ
ถ้าจะให้เห็นเลขผลตอบแทนจริง ๆ ที่สามารถใช้เปรียบเทียบได้ เราต้องใช้ IRR หรือ Internal Rate of Return ในการคำนวณ
เพราะผลตอบแทนที่ได้มาในแต่ละปี มีต้นทุน ที่ไม่เท่ากัน
ซึ่งถ้าจะเข้าใจเรื่องนี้ เราควรมีพื้นฐานเรื่อง มูลค่าเงินตามเวลา หรือ Time Value of Money มาก่อนครับ
ถ้าอยากจะคำนวณด้วยตนเองง่าย ๆ ลองดูตัวอย่างการคำนวณด้วย Google Sheet ได้ครับ

โดยในช่องคำนวณ IRR ผมใช้สูตร ตามภาพ ด้านล่าง แล้วเราสามารถใส่กระแสเงินสดสุทธิแต่ละงวดในสูตรได้เลยครับ

หรือใครไม่สะดวก Google Sheet สามารถใช้แอพ EZ Calculator ใน iOS และ Andriod ได้ครับ
จะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้ว ผลตอบแทนของกรมธรรม์ ฉบับนี้ อยู่ 1.26% ต่อปีโดยเฉลี่ยเท่านั้น
**IRR ยังไม่ได้รวมถึงผลตอบแทนที่เราได้จากภาษี ซึ่งตรงนี้แต่ละคนฐานภาษีไม่เท่ากัน เราจึงมักใช้ IRR ในการเปรียบเทียบครับ
ดังนั้น ถ้ามีใครมาเสนอประกันออมทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทนเวอร์เกินจริง
อันนี้ต้องระวังด้วยครับ
เพราะตัวเลขหลายร้อย% หรือผลตอบแทนหลาย 10% ต่อปี เขานำเสนอ มันคือเงินคืนที่เทียบกับเบี้ยต่อปี เท่านั้น
แต่ในความเป็นจริงเราจ่ายเบี้ย (ตุ้นทุน) หลายงวด ต่างเวลากัน
IRR จึงเหมาะสมกว่าในการเปรียบเทียบความคุ้มค่าของแบบประกันครับ
แล้ว ประกันออมทรัพย์ เหมาะกับใครล่ะ?
เหมาะกับคนที่สภาพคล่องเหลือ ๆ วางแผนการเงินในเรื่องอื่น ๆ ครบแล้ว
แต่มีปัญหาเรื่องการเก็บเงินจริง ๆ
คือเป็นคนที่มีนิสัยเก็บเงินด้วยวินัยตนเองไม่ได้เลย และต้องการระบบที่ช่วยให้เก็บเงินก้อน โดยไม่ต้องการรับความเสี่ยง
หรือฐานภาษีสูงมาก จึงอยากได้ผลประโยชน์ทางภาษีไปด้วยระหว่างทางครับ
สรุป
จะเห็นได้ว่าถ้าเราเจอคนอ้างตัวเลขผลตอบแทนที่มากเกินจริง ให้ระวังไว้เสมอ
และต้องทำความเข้าใจด้วยว่า ประกัน ไม่เท่ากับการฝากเงิน ครับ
ดังนั้นก่อนที่เราจะซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินใด ๆ ก็ตาม เราควรที่จะต้องศึกษาผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ให้เข้าใจเสียก่อน
และมองกลับมาที่บริบทของตนเอง แผนการเงินของตนเอง ว่ามันตรงกับเราไหม